วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การใช้ Should

Should ตามด้วย verb infinitive นะครับ
Should do / should be / should come
หลายคนชอบใช้ ''should to" << แบบนี้ผิดนะครับ :D




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Most Vs. Almost

Most Vs. Almost
Most แปลว่า "ส่วนมาก" / "ส่วนใหญ่" เวลาใช้ให้ตามด้วย คำนาม เลย
- Most Thai people คนไทยส่วนมาก
- Most books หนังสือส่วนใหญ่
** แต่ถ้ามีอะไรมานำหน้าคำนาม เช่นพวก "My/your/these/the" จะต้องมี of ด้วยเสมอ เช่น
- Most of my books หนังสือส่วนใหญ่ของฉัน
- Most of the children เด็กๆส่วนมาก
----------------
ส่วนคำว่า almost แปลว่า "เกือบ"
- I almost fell. ฉันเกือบล้ม
- They are almost here. พวกเขาเกือบถึงแล้ว
- There are almost ten children. มีเด็กเกือบ 10 คน
----------------
ลองเปรียบเทียบ
- most children (ถูก)
- almost children (ผิด)
- most 10 books (ผิด)
- almost 10 books (ถูก)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอังคารที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การใช้ Yet

Yet แปลว่า "ยัง" โดยปกติก็จะใช้กับประโยคปฏิเสธ โดยปกติจะวางไว้ท้ายประโยค
> I haven't done my homework yet. ฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย
> She haven't told me yet. เธอยังไม่ได้บอกฉันเลย
---
หรืออาจอยู่ในประโยคบอกเล่าปกติก็ได้ โดยจะใช้นำหน้า "infinitive with to" และตามหลัง verb to be --->
> There are things that are yet to come ยังมีสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
> The best is yet to come. สิ่งที่ดีที่สุดยังมาไม่ถึง
---
Yet มีอีกความหมายหนึ่ง โดยทำหน้าที่เหมือนคำว่า but ครับ
> There's no storm, yet I hear thunder. ไม่มีพายุ แต่ฉันได้ยินเสียงฟ้าร้อง
> There's no storm, but I hear thunder. ความหมายเหมือนกันเลยครับ
** โดยปกติถ้าใช้ในความหมายนี้ อาจใช้คู่กับ still ด้วย แต่ไม่ใช้ก็ไม่ผิดอะไรครับ
> There's no storm, yet I still hear thunder.



Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

although ถึงแม้ว่า

คำว่า although แปลว่า "ถึงแม้ว่า" "แม้ว่า" ใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่ใจความขัดแย้งกัน
> Although he is very rich, he is not happy.
ถึงแม้ว่าเขาจะรวยมาก แต่เขาก็ไม่มีความสุข
*** [ข้อสังเกต] คนไทยชอบใช้ผิด เพราะ แปลจากภาษาไทย "ถึงแม้ว่า.....แต่..." ซึ่งในภาษาอังกฤษ ใช้ although โดยไม่ต้องมีคำว่า but นะครับ
> Although he is very rich, but he is not happy. (ผิดนะครับประโยคนี้ ต้องไม่มี but นะครับ)
*** ถ้าเอา although ไว้ประโยคแรก อย่าลืม comma ขั้นกลางนะครับ
> Although he is poor, he is happy.
*** แต่ถ้าสลับเอา although นำหน้าประโยคหลัง ก็ไม่ต้องมี comma ครับ
> He is happy although he is poor.
***
Even though / although / though เลือกใช้ตามสบายครับ ความหมายเดียวกัน :D





Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ปัญหา "No have" ของคนไทย

ปัญหาอย่างหนึ่งของคนไทยคือมักแปลจากไทยเป็นอังกฤษแบบตรงตัว
คำพูดที่ได้ยินบ่อยๆคือ "No have" ซึ่งเราแปลตรงตัวมาจาก "ไม่มี"
-- ในภาษาอังกฤษถ้าจะบอกว่าไม่มีให้ใช้ วลีดังต่อไปนี้จะดีกว่าครับ เช่น
> There is no .....
> There are no .....
> I don't have .....
> I have no .....
-----
There is no fresh air here. (ที่นี่ไม่มีอากาศบริสุทธิ์)
I don't have any money. / I have no money. ฉันไม่มีเงิน
:D อย่าพูด no have เลยครับ ฝรั่งเข้าใจ แต่มันผิดหลักและอาจฟังดูตลกด้วยครับ :)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันเสาร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Fun Fact Saturday สักนิด

ขั้นด้วย Fun Fact สักนิด
วันเสาร์ หรือ Saturday มีรากศัพท์มาจาก Sæterndæg (ภาษาตระกูล Germanic) แปลว่า Day of Saturn หรือ วันแห่งดาวเสาร์ นั่นเอง :D




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สุขสันต์วันศุกร์ :)

Fun Fact: คำว่า Friday มีรากศัพท์เดิมมาจากคำว่า Frīgedæg (เป็นภาษาตระกูล Germanic) ซึ่งแปลว่า Day of the Planet Venus หรือ วันของดาวศุกร์ นั่นเอง :)





Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

long time no see และ rest in peace


Q:สงสัยเรื่อง "long time no see" และ "rest in peace" ครับ ว่า native speaker เค้าใช้กันหรือไม่ครับ

A:ใช้ครับผม  long time no see / haven't seen you in a long time / it's been ages! ให้อารมณ์เดียวกัน ส่วน rest in peace เขาก็ใช้กันครับ อารมณ์ประมาณให้สู่สุขคติ (รู้สึกจะอยู่ในบทสวดทางศาสนาเวลาไว้อาลัยด้วยนะ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ) แต่ ตามป้ายหลุมศพก็จะมีตัวอักษร RIP สลักอยู่เช่นกันครับ  บางครั้งเขาก็อาจต่อท้ายว่า rest in peace and love ก็มีครับ



Fun Fact
รู้หรือไม่ ภาษาอังกฤษที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน มีเพียง 2 คำเท่านั้น ที่ลงท้ายด้วย -gry คือ angry และ hungry :D




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันพุธที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คำพ้องเสียง break,brake

คำพ้องเสียง ระวังใช้สลับกันนะครับ
Break - แตก หัก พัง พักผ่อน / Brake - หยุด เบรครถ :D







Fun Fact
ประเทศจีน มีจำนวนคนที่พูดภาษาอังกฤษเป็น มากกว่าจำนวนคนที่พูดภาษาอังกฤษเป็นใน สหรัฐอเมริกา เสียอีกนะ :)
ความจริงรวมประเทศอังกฤษเข้าไปด้วย ก็ยังน้อยกว่าจีนเลย ฮ่าๆๆ เมื่อคิดให้ดีโลกนี้ประหลาด 


Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Exceed เกิน


Exceed (verb) = เกิน
The number of people who likes this Page has just exceeded 200. (จำนวนคนที่ไลค์เพจนี้เพิ่งเกิน 200 เมื่อกี้นี้เอง :D ) --> การใช้ present perfect tense พร้อมคำว่า just เหมือนประโยคนี้ สามารถแสดงถึงอะไรก็ตามที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เช่น I have just finished my homework. (ฉันเพิ่งจะทำการบ้านเสร็จเมื่อครู่นี้เอง)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Rain Series 4

[Rain Series]
4. to rain on someone's parade ถ้าแปลตรงตัวก็คือ ฝนตกใส่ขบวนพาเรด ซึ่งสำนวนนี้มีความหมายว่า ทำให้ใครสักคนนึงเสียแผนที่วางไว้ เสียความตั้งใจ หรือ ไปทำอะไรขัดใครสักคน เช่น
I don't want to rain on your parade but your plans really don't make sense. (ฉันไม่อยากขัด/ไม่อยากทำให้คุณเสียแผน/เสียความตั้งใจหรอกนะ แต่แผนที่คุณวางเอาไว้น่ะมันฟังดูไม่เข้าท่าเลย) หรืออย่างเพลง Don't rain on my parade ก็มีความหมายประมาณว่า อย่ามาขัดขวางฉันนะ! เป็นต้น



Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอาทิตย์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Rain Series 3

[Rain Series] 3.  
ถ้าเราอยากบอกว่าฝนตก แต่เบื่อ กริยา to rain เราสามารถใช้ กริยา to pour ได้
to pour แปลว่าเท เทน้ำ ถ้าใช้กับฝนหมายถึงฝนตกหนัก หรือที่เราพูดกันว่า ฝนเทลงมา นั่นเอง เช่น
It's raining hard! (ฝนตกหนัก) / The rain is pouring down! (ฝนตกหนักมาก) --- สังเกตว่า ถ้าเราใช้ กริยา to rain ประธานจะเป็น it หมายถึงสภาพอากาศไป แต่ถ้าจะใช้ pour ประธานจะกลายเป็น rain หรือฝนนั่นเอง หรือเราจะใช้ it แทนฝนเลยก็ได้เช่นกัน เช่น It's pouring outside. (ข้างนอกฝนตกหนักมาก) ***rain เป็นได้ทั้งคำนาม และกริยานะ อย่าสับสน


Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Rain Series 2

[Rain Series]
2. pouring rain (noun) ใช้เรียกฝนที่ตกหนักมาก เช่น
I hate pouring rain ! (ฉันเกลียดฝนตกหนัก) หรือ
We were soaking wet after walking through the pouring rain. (เราเปียกโชกหลังจากที่เดินตากฝนที่ตกหนัก)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Rain Series 1

[Rain Series]
1. to rain cats and dogs (ใช้บ่อยมาก) หมายถึง ฝนตกหนัก ตกนาน ตกแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เช่น
It's raining cats and dogs! (ฝนตกหนักมากตั้งนานแล้ว ไม่ยอมหยุดเลย!) เราสามารถปรับเปลี่ยน tense ได้ เช่น
I hope it won't rain cats and dogs. (ฉันหวังว่าฝนจะไม่ตกนานนะ) หรือ
It rained cats and dogs yesterday. (เมื่อวานฝนตกหนักมาก) เป็นต้น :)






Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Clothe (verb) แปลว่าแต่งตัว


เย็นนี้เอาผ้าลงมาซักใต้หอพัก
Clothe (verb) แปลว่าแต่งตัว / ใส่เสื้อผ้า (ส่วนใหญ่เขียนในรูป passive) เช่น
He "was clothed" with new fashionable suit. เขาแต่งตัวด้วยเสื้อสูธใหม่ที่ทันสมัย
ส่วน Clothes (noun) แปลว่าเสื้อผ้า สังเกตว่าเป็น พหูพจน์ ตลอด ห้ามลืมใส่ s อีกคำที่ขอนำเสนอวันนี้คือ Cloth (noun) (นามนับไม่ได้) แปลว่า ผ้า หรือเศษผ้า ผ้าที่เป็นผืน เป็นชิ้นๆ ที่ยังไม่ได้นำมาตัดเป็นชุด --- เลือกใช้ให้ถูกนะครับ :) ---> ตัวอย่างเพิ่มเติม
My clothes are dirty. (เสื้อผ้าฉันเลอะไปหมด)
There's a piece of cloth around her neck. (มีผ้าผืนหนึ่งรอบๆคอเธอ) ** เพราะ cloth นับไม่ได้จึงไม่สามารถใช้ว่า a cloth ได้ หน่วยนับ "a piece of" จึงต้องเข้ามาเสริม




Q:แล้ว เย็นนี้เอาผ้าลงมาซักใต้หอพัก << อันนี้จะพูดไงอะ
A :I did my laundry this evening. ก็น่าจะโอนะ ไม่ต้องละเอียดเหมือนภาษาไทยก็ได้ ^^"

คำว่า invisibility [Fun Fact]

[Fun Fact]
คำว่า invisibility เป็นคำเดียวในภาษาอังกฤษ ที่มีสระเพียงตัวเดียวแต่ซ้ำกันถึง 5 ครั้ง (ตัว i) :D




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันพุธที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Be terrified รู้สึกกลัว หวาดกลัว

Be terrified รู้สึกกลัว หวาดกลัว
Terrifying น่ากลัว
Terror ความหวาดกลัว
She was terrified. (เธอรู้สึกหวาดกลัว)
It was a terrifying movie. (เป็นหนังที่น่ากลัวมาก)
She screamed with terror. (เธอกรีดร้องด้วยความกลัว)





Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Disguise ปลอมตัว

Disguise ปลอมตัว พรางตัว แต่งตัวเป็น...
Costume ชุด เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย
Dress up แต่งตัว
Children dress up as ghosts on Halloween. (เด็กๆ แต่งตัวเป็นผีในวันฮาโลวีน)
Children disguise themselves in ghost costumes on Halloween. (เด็กๆแต่งตัวด้วยชุดผีต่างๆในวันฮาโลวีน)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Anthem เพลงสดุดี / เพลงสรรเสริญ

Anthem เพลงสดุดี / เพลงสรรเสริญ
National anthem เพลงชาติ
Thai national anthem เพลงชาติไทย :)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Fear กลัว

Be afraid of กลัว (adj)
Be scared of กลัว (adj) / Scare (verb) ทำให้กลัว
Fear กลัว / Fear (noun) ความกลัว
I am afraid of spiders. (ฉันกลัวแมงมุม)
I am scared of ghost. (ฉันกลัวผี)
You scared me! (คุณทำให้ฉันกลัว)
I have nothing to fear. (ฉันไม่มีอะไรต้องกลัว)
She was trembling with fear. (เธอตัวสั่นไปด้วยความกลัว)




Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

vacation พักผ่อน / เที่ยว

หนีมาพักผ่อนทะเล^^

On vacation / on holidays / to have (some) days off (พักผ่อน / เที่ยว)
He is on vacation. / He is on holidays. / He is having some days off.



วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Horrify,Horror ความหมาย

Horrify ทำให้หวาดกลัว / be horrified รู้สึกกลัว ถูกทำให้กลัว
Horror ความกลัว ความสยองขวัญ
He was horrified by the accident. (เขารู้สึกหวาดกลัวจากอุบัติเหตุ)
The house of horror (บ้านสยองขวัญ / บ้านที่น่ากลัว)



วันพฤหัสบดีที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Get over it ! (สำนวน)

Get over it ! (สำนวน) ลืมๆไปได้แล้ว / ทำใจซะ / อย่าไปคิดถึงมัน
A: I can't believe I lost the game ! (ไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าฉันจะแพ้การแข่งขัน)
B: Oh, get over it! It's just a fun game. (จะไปคิดมากทำไม มันก็แค่การแข่งสนุกๆ)





Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Once in a blue moon สำนวน

เอาสำนวนมาฝากกันก่อนนอน
Once in a blue moon : ใช้พูดถึงสิ่งที่นานๆจะเกิดขึ้น เช่น
A: How often does he give you a gift? (เขาให้ของขวัญคุณบ่อยแค่ไหน)
B: Once in a blue moon. (ชาตินึงจะให้สักครั้งนึง)
อีกสำนวนคือ Out of the blue : ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่โพล่งขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย หรือ แบบไม่ทันได้ตั้งตัว / เกิดขึ้นทันทีทันใด เช่น
We were having so much fun when out of the blue, he started to cry. พวกเราสนุกกันมาก แล้วอยู่ดีๆเขาก็เริ่มร้องไห้แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย



Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Crow,Crowd,Crown.Clown ต่างๆ

Crow (noun) อีกา / Crow (verb) (ไก่)ขัน

Crowd (noun) ฝูงชน กลุ่มคน / Crowd (verb) มุง รุมล้อม เบียด / Crowded (adj) แออัด เบียดเสียด


Crown (noun) มงกุฎ / Crown (verb) สวมมงกุฏให้ มอบตำแหน่งสูงๆให้ ยกย่องให้เป็น


Clown (noun) ตัวตลก / Clown (verb) ทำตัวบ้าๆบอๆ ทำตัวเฮฮา / Clown (adj) เป็นคนตลก เป็นคนเฮฮา เป็นคนเล่นๆ เป็นไร้สาระ --- ตัวอย่างประโยค


- The crow flew away. (อีกาบินไปแล้ว)
- The rooster
crows at sunrise. (ได่ขันตอนพระอาทิตย์ขึ้น)
- The crowd cheered in excitement. (ฝูงชนโห่ร้องด้วยความตื่นเต้น)
- Don't crowd me! (อย่ามายืนเบียดฉันนะ!)
- The street was crowded with shoppers. (ถนนแออัดไปด้วยเหล่านักช็อป)
- Michael Jackson was crowned the King of Pop. (ไมเคิล แจ็กสัน ได้รับการยกย่องเป็นราชาเพลงป็อป)
- The clown wore a very funny suit. (ตัวตลกแต่งตัวตลกมาก)
- It's nothing serious, he was just clowning. (ไม่มีอะไรหรอก เขาก็แค่หยอกเล่น)
- Kate is such a clown! She made me laugh all the time. (เคท เป็นคนที่ตลกมาก เธอทำฉันหัวเราะตลอดเลย)


Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit

วันจันทร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

คำศัพท์ก่อนนอนคืนนี้



slumber (noun) = คือ sleep นั่นเอง แต่เป็นการหลับที่สบายกว่านิดนึง :)
She woke from a 10 hour slumber. (เธอตื่นจากการได้นอนหลับนานถึง 10 ชั่วโมง)
ราตรีสวัสดิ์ครับคืนนี้
Sweet Dreams !! (dream เวลาอวยพรให้ฝันดีๆ ต้องมี S เสมอนะ)



Credit:https://www.facebook.com/ENG101BySarit